วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ไกลแค่ไหนคือไกลลลล


ดูแล รักษา ให้ดีๆ

การดูแลตับของเราให้ดีีี


สำหรับผู้ห่วงใยในสุขภาพที่ดีของตับในร่างกาย การพักผ่อนที่เพียงพอและการนอนหลับที่ดี
เป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าหากคุณยังมีปัญหาในการนอนหลับ พิษและของเสียที่อยู่ในร่างกายย่อมจะ
สะสมและเป็นปัญหาต่อสุขภาพและอารมณ์ของคุณเอง

สาเหตุหลักที่ทำลายตับของคุณคือ
1. การนอนดึกและตื่นสายเป็นสาเหตุลำดับต้น ๆ
2. การไม่ปัสสาวะในตอนเช้า
3. ทานจุเป็นประจำ
4. ไม่รับประทานอาหารเช้า
5. บริโภคยามากเกินไป
6. บริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุกันเสีย สีผสมอาหาร
วัตถุปรุงแต่ง และน้ำตาลเทียม
7. บริโภคน้ำมันที่ใช้ทำอาหารซึ่งด้อยคุณภาพและไม่เป็นประโยชน์
ถ้าหากคุณสามารถลดปริมาณการใช้น้ำมันในการทอดอาหาร
ซึ่งรวมถึงการใช้น้ำมันที่ดีที่สุดที่ใช้ทำอาหาร เช่น น้ำมันมะกอก
จงหลีกเลี่ยงการบริโภคของทอด เมื่อคุณมีอาการเหน็ดเหนื่อย
อ่อนเพลีย ยกเว้นถ้าหากร่างกายคุณฟิต
8. บริโภคอาหารที่ผ่านการปรุงมากเกินไปย่อมสร้างภาระแก่ตับ
ผักควรทานสด ๆ หรือผ่านการทำให้สุก เพียง 3-5 ส่วน
ผักที่ผ่านการผัดควรจะบริโภคให้หมดในมื้อเดียว อย่าเก็บไว้ทาน
ในมื้ออื่น ๆ ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งธัญพืชสารพัดอย่าง เช่น ลูกเดือย
ข้าวฟ่าง ฯลฯ มีประโยชน์ต่อลำไส้ คือ ช่วยกวาดเชื้อโรค + แบคทีเรีย
ชนิดไม่ดีออกจากลำไส้เรา ควรกินอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างน้อย
พืชผักสีเขียวมีคลอโรฟิว ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยง
ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี เซลล์แต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อมีออกซิเจน
ไปหล่อเลี้ยง ก่อนเอาผักมากิน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารพิษ อย่าลืมแช่
ผักด้วยน้ำส้มสายชู 45 นาที

เราควรพักผ่อนเข้านอนเวลา 3 ทุ่ม เนื่องจากร่างกายเราต้องการเวลาในการซ่อมแซม
ส่วนที่สึกหรอ ขับของเสียตามอวัยวะต่าง ๆ ย่อยอาหารให้หมด ถ้ากินมื้อหนักตอนกลางคืน
แถมนอนดึกอีก รับรองว่าอ้วนพุงพุ้ยแน่นอน ไขมันเผาผลาญไม่หมดมันเลยสะสม
แต่ถ้าต้องนอนดึกเลี่ยงไม่ได้ เพราะอ่านหนังสือเตรียมสอบ ทำรายงาน ขนงานมาทำ หรือติดงาน
อะไรก็ตาม ควรปฏิบัติดังนี้ :

1. งดเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เพราะย่อยยาก
ลำไส้ต้องทำงานหนัก แต่ถ้าหากเราอยากกินเนื้อสัตว์ก็ควรช่วยลำไส้ย่อย
ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด ยิ่งเคี้ยวละเอียดก็ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระลำไส้
2. ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้ง อุ่น ๆ หรือ น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง
หรือถ้าไม่มีอะไรเลย น้ำอุ่นธรรมดา สัก 1 แก้วก็ได้ เหมือนกัน
3. เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้อง / ฝ่าเท้าอุ่น โดยการห่มผ้าหรือใส่ถุงเท้าด้วยก็จะดี
4. ที่จริงมื้อดึก ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น ผัก ผลไม้ นม ไข่ เนื้อปลา จะดีกว่า
5. ควรเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม เพราะเพิ่มภาระให้ระบบภายใน
ร่างกาย ร่างกายเราต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร หากดื่ม
แต่น้ำเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร จะทำให้ร่างกายเราต้อง
พยายามปรับอุณหภูมิให้อุ่นเหมาะสมก่อน แล้วจึงนำไปใช้
การดื่มน้ำอัดลมก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพิ่มกรดให้ร่างกาย แถมมีน้ำตาล
ที่สะสมตามร่างกายอีก อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วนะ น้ำสะอาด
จะช่วยล้างของเสียออกจากร่างกาย อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด

เราจะต้องพยายามปรับวิถีการดำเนินชีวิตโดยเฉพาะนิสัยการกิน การปลูกฝังนิสัยการกิน
ที่ดีและดูแลปัจจัยเรื่องเวลา เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ร่างกายของเราได้รับประโยชน์และสามารถ
กำจัดสารที่ไม่เป็นประโยชน์ในร่างกายตามตารางเวลาที่ควรจะเป็นเพราะ

1. ช่วงเวลากลางคืน 3 ทุ่ม - 5 ทุ่ม : 
เป็นระยะเวลาที่ร่างกายจะกำจัดสารพิษต่าง ๆ โดยระบบต่อต้านเชื้อโรคในร่างกาย
(ระบบหมุนเวียนของน้ำเหลืองในร่างกาย) ช่วงเวลานี้ควรจะต้องถูกใช้ไปในการพักผ่อน
หรือผ่อนคลายด้วยการฟังดนตรี ถ้าหากช่วงเวลานี้แม่บ้านยังคงวุ่นอยู่กับงานบ้าน เช่น
ล้างจาน หรือดูแลเด็ก ให้ทำการบ้าน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลลบต่อร่างกาย
2. ช่วงเวลากลางคืน 5 ทุ่ม - ตี 1 : 
กระบวนการกำจัดสารพิษในตับและแน่นอน ควรจะต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท
ในช่วงเช้าระหว่างเวลาตี 1 ถึง ตี 3 นั้น กระบวนการกำจัดสารพิษในน้ำดี ก็ควรจะเป็นช่วง
แห่งการนอนหลับสนิทเช่นกัน
3. ช่วงเวลาตี 1 - ตี 3 : 
การกำจัดสารพิษในปอด เพราะฉะนั้นอาจจะมีอาการไออย่างรุนแรง สำหรับผู้ที่มีปัญหา
การไอในช่วงเวลาดังกล่าว ตอนนี้กระบวนการกำจัดสารพิษจะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจแล้ว
และก็ไม่จำเป็นที่คุณจะใช้ยาแก้ไอ เพื่อที่จะได้ไม่ไปขัดขวางขั้นตอนการกำจัดสารพิษในร่างกาย
ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ ตีหนึ่ง เด็ดขาด เนื่องจากถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน ถ้าอดนอน
เวลานี้บ่อย ๆ จะทำให้เป็นนิ่วในถุงน้ำดี
4. ช่วงเช้า ตี 5 - 7 โมงเช้า : 
การกำจัดสารพิษในปลายลำไส้ใหญ่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำให้พุงและลำไส้ของคุณว่างลง
5. ช่วงเช้า 7 - 9 โมงเช้า : 
การดูดซึมสารอาหารสู่ลำไส้เล็ก คุณควรจะต้องทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ อาหารเช้าควร
จะก่อนเวลา 6.30 น. สำหรับผู้ป่วย อาหารเช้าที่ทานก่อน 7.30 น. นั้นดีต่อผู้ที่ต้องการมีร่างกาย
สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์ ควรกินเวลา 7.00 น - 9.00 น. เนื่องจากกระเพาะ
เรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมาก ๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนาน ๆ ขั้วกระเพาะเรา
จะเป็นปุ่มปม และนานเข้า ๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหาร ผู้ใดที่ไม่ทานอาหารเช้าตลอดเวลา
ควรจะต้องรีบเปลี่ยนพฤติกรรมนี้เสีย และการทานอาหารเช้าในช่วงสายตั้งแต่ 9 - 10 น. ก็ยังดีกว่า
ไม่มีอะไรลงไปในท้องเลย
แต่ห้ามกินนมในตอนเช้าแทนข้าวเช้า เนื่องจากตอนเช้านั้น กระเพาะจะเป็นกรดสูงมาก
นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนม จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อยนะ
ยิ่งถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า ระวังจะเป็นมะเร็งในไขกระดูก แต่ถ้า
เป็นช่วงหลังอาหารเช้าหรือตอนบ่ายไปแล้ว หรือตอนเย็นก็ดื่มได้ตามปกติ มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่าย ๆ
อย่างนมกับไข่ก็ไม่ว่ากัน

การนอนดึกตื่นสายนั้นเป็นปัญหาต่อกระบวนการทำลายของเสียในร่างกาย นอกจากนั้นช่วง
เที่ยงคืนถึงตี 4 ก็ยังเป็นเวลาที่ร่างกายผลิตเลือด เพราะฉะนั้น

"อย่านอนดึกและอย่านอนตื่นสาย" 
ขอให้ถนอมสุขภาพร่างกายของเราให้ดีกันทุกคนนะจ๊ะ
ที่มาของข้อมูล : เรียบเรียงจาก FW Mail

ความหมายแฝง ในพยัญชนะไทย 44 ตัว

ความหมายแฝงของอักษรไทย 44 ตัว

ความหมายแฝงของอักษรไทย 44 ตัว
ก.ไก่ เป็นสัตว์ตื่นเช้าที่สุด เลยให้มาเป็นอักษรตัวแรก เพื่อเตือนให้คนไทยขยันขันแข็ง
ข.ไข่ เป็นดอกผลของไก่ แต่จะมีความเปราะบาง ต้องทะนุถนอมให้ดีดี อย่าปล่อยทิ้งละเลยสังคม
ฃ.ฃวด เป็นวิถีชีวิตของคนไทยที่เตือนไว้ว่า แม้จะดื่มกิน ให้มีสติไว้ มิฉะนั้นอาจมีสิ่งใดแตกหักได้
ค.ควาย ฅ.ฅน
เป็นวิถีชีวิตของคนไทย การอยู่ร่วมกันระหว่าง ฅน และธรรมชาติ โดยให้ ฅน

มาทีหลัง ควาย คือ โง่ มาก่อนฉลาด อย่าอวดฉลาด หากยังไม่รู้จักโง่ก่อน
ฆ.ระฆัง ให้หมั่นประชุมเป็นนิตย์ อย่าได้ละเลยการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ง.งู ต้องกล้าคิดกล้าทำกล้าแสดงความคิดเห็น
จ.จาน ต้องรู้จักการอาสาเจือจาน เข้าทำนอง จ.จานใช้ดี
ฉ.ฉิ่ง ตีดัง ช.ช้าง วิ่งหนี
ให้รู้จักการใช้การทำงานเล็ก ๆ ให้เกิดผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง โดยไม่ต้องคิดการใหญ่
ซ.โซ่ ล่ามที
หากสังคมเตลิด จากการกระทำใดใด ให้รู้จักยับยั้งเอาไว้ด้วยขนบธรรมเนียมบ้าง
ฌ.เฌอ คู่กัน
ให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ระหว่างคนและธรรมชาติ
ญ.หญิงโสภา ฑ.มณโฑ หน้าขาว
บอกใบ้ให้เห็นว่า สตรี เป็นเพศที่สวยงาม และต้องเอาใจใส่ให้มาก อย่าได้ละเลยลืมเลือน
ฎ.ชฎา สวมพลัน
เป็นแง่คิดให้เห็นถึง ยศฐาบรรดาศักดิ์ว่า ไม่จีรัง คล้าย ๆ กับหัวโขน
ฏ.ปฏัก และ ฐ.ฐาน
เป็นอักษรคู่กัน ที่จะทำงานอะไรที่ฉับไว เที่ยงตรง ต้องมีรากฐาน หรือมีเหตุผลรองรับ
อย่างชัดเจนมั่นคง
ฒ.ผู้เฒ่า เดินย่อง
เป็นการสะท้อนว่า ผู้หลักผู้ใหญ่จะทำอะไรต้องระมัดระวังให้ถี่ถ้วน อย่าโผงผาง
ณ.เณร ไม่มอง ด.เด็ก ต้องนิมนต์
เป็นอักษรคู่กัน แทนการเปรียบเทียบ 2 สถาบัน ระหว่างศาสนา และฆราวาส
เมื่อพระท่านมองข้ามสิ่งใด ละเลยสิ่งใด ต้องช่วยกันเตือนได้ ไม่ใช่ละเลยไปหมด
ต.เต่า หลังตุง ถ.ถุง แบกหาม
เป็นอักษรคู่เช่นกัน ที่เปรียบว่า ทั้งหมด มีหน้าที่ของตัว และต้องทำให้ดีที่สุด
ตามสภาพที่มีและเป็นอยู่
ท.ทหาร อดทน
นี่ชัดเจนว่าท่านข้าราชการ ว่าต้องมีน้ำอดน้ำทน ทำงานไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เพื่อชาติ
ธ.ธง คนนิยม
เป็นภาพสะท้อนให้คนรักชาติบ้านเมือง ให้เห็นแก่ประโยชน์ของชาติอันดับแรกเลย
ภ.สำเภา กางใบ
สะท้อนว่าหากจะค้าขายไกล ๆ ต้องพัฒนาศักยภาพของตนเองให้สอดรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ
ร. ล. ว. เป็นอักษรชุด 3 ตัวเรียง
ที่มาสะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนไทยที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ น้ำ สัตว์ และการฝีมือ
ที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ของชาติ
ษ. ฤาษีหนวดยาว ศ.ศาลา ส.เสือ ดาวคะนอง
สามสอนี้ เป็นภาคตัวแทนของอุปนิสัยใจคอของคนไทยว่า รักสงบ (ษ.)
โอบอ้อมอารี (ศ.) แต่ใจนักเลง (ส.)
อ.อ่าง เนืองนอง
เป็นสัญลักษณ์ย้ำว่าคนไทย ต้องมีจิตคิดเพื่อคนอื่นเสมอ ก่อนคิดเพื่อตัว
ฬ.จุฬา ท่าผยอง
สะท้อนว่า ริจะเป็นผู้ปกครอง ริจะอยู่เหนือคนอื่น ต้องต้านทานอุปสรรคนานาได้
คล้ายกับว่าว จะขึ้นสูงต้องต้านแรงลมได้
ฮ.นกฮูก นั้น
สะท้อนว่า คนไทยขยันตั้งแต่เช้า (ไก่) ยันค่ำ (นกฮูก) มีสัตว์ที่ตื่นอยู่ตลอดเวลา

ขอบคุณข้อมูลจาก saranair

กินอย่างไรให้ห่างไกลความชรา

กินชะลอความชรา
แม้วันเวลาจะร่วงเลยไปก็คงไม่มีใครอยากแก่เร็ว ดังนั้นก่อนจะถึงเวลานั้นเราควรหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพร่างกาย และมีประโยชน์ต่อผิวพรรณของเรา อาหารที่ดีและมีประโยชน์จะช่วยชะลอความแก่ที่ำกำลังมาถึงได้
1. อายุสักเท่าไรจึงจะถือว่าเริ่มแก่
การแพทย์แผนปัจจุบันอายุ 30ปีขึ้นไป เริ่มเหนื่อยง่ายเริ่มหย่อนยานลง การแพทย์แผนไทยอายุ 32ปีขึ้นไป. เรียกปัจฉิมวัยควรเริ่มดูแลสุขภาพ อาหารการกินตั้งแต่ช่วง30ต้นๆ
2. คนเราจะดูแก่ที่ตรงไหน
ผิว เหี่ยวย่น ไม่เต่งตึง ผมหงอก ศีรษะล้าน ฟัน หัก หลุด เหงือกมีโรค ตาขุ่น ฝ้าฟาง ไม่สดใส หลัง โกงค่อมลง อ้วนมาก ผอมแห้ง เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
3. ควรกินอย่างไร จึงจะชะลอความแก่ ในแต่ละเรื่อง
ผิวพรรณ กินผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีมากๆ อย่ากิน อาหารไขมันสูง ซึ่งทำให้เป็นโรคผิวหนังได้ง่ายไม่สูบบุหรี่ ถ้ายังเลิกสูบไม่ได้ ต้องกินวิตามินซีให้เพียงพอเพื่อชดเชย ผมกินอาหารบำรุงเส้นผม เช่น นัท, ข้าวกล้อง เมล็ดพืชต่างๆ งาดำ ถั่วดำ สาหร่ายทะเล ตา กินอาหารที่มีวิตามินเอ เช่นผักบุ้ง ,มะเขือเทศ กล่ำปลี ฟัน, เหงือก กินอาหารที่มี แคลเซียม และวิตามินซี และกินผักผลไม้ ที่มีวิตามินซี เพื่อชะลอการเป็นต้อกระจก หลัง,กระดูก กินอาหารที่มี แคลเซียม เช่น นม งาดำ ถั่ว ผักคะน้า บร็อกโคลี่ อ้วนมาก กินอาหารที่มีกากใยสูง ไขมันน้อย น้ำตาลและแป้งน้อยๆ ผอมแห้ง อ่อนเพลีย กินอาหารบำรุง เช่นไข่ นม เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้
4. อาหารที่ควรกิน 10อย่าง Top Ten Super Food
ยอดอาหารสำหรับสหัสวรรษใหม่ ผักผลไม้ประเภทสีเหลืองหรือแดง ลดอัตราเสี่ยงมะเร็ง โรคหัวใจ ผักพวก บร็อกโคลี่ กล่ำปลี ลดอัตราเสี่ยงมะเร็ง เสริมภูมิต้านทาน ส้มต่างๆ มะนาว ต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งบำรุงผิวพรรณ มะะเขือเทศ บำรุงสมองบำรุง สายตา ถั่วต่างๆ ป้องกันโรคหัวใจ ลดไขมันในเลือด ถั่วเหลือง เต้าหู้ลดไขมันในเลือด ป้องกันมะเร็งธัญพืช ข้าวต่างๆที่ยังไม่ขัดเม็ดขาวเพิ่มภูมิต้านทานโรค ป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง ปลาอาหารทะเล ป้องกันโรคหัวใจมะเร็งไขข้อ เบาหวานหัวหอม หัวกระเทียม ลดไขมันในเส้นเลือดเสริมภูมิต้านทาน
5. สมุนไพรเพื่อชะลอความแก่
ดอกกระเจี๊ยบ มะขาม สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม รสเปรี้ยว เสริมวิตามินซี ต้านอนุมูลอิสระ ระบายท้อง ล้างพิษ ขับปัสสาวะบำรุงผิวพรรณ
บอระเพ็ด สะเดา มะระ รสขม แก้ไข้ เจริญอาหาร บำรุงตับ น้ำดี
บยอ ลูกยอ ช้าพลู ยอดแคใ มีแคลเซียมสูงบำรุงกระดูก
โสม กระชาย กล้วย พริกไทย มะตูม บำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย ทิ้งถ่อน ตะโกนา บอระเพ็ด เม็ดข่อย แห้วหมู พริกไทย ยาอายุวัฒนะ
สูตรพื้นบ้าน

ม้ากระทืบโรง กำลังช้างเผือก โด่ไม่รู้ล้ม กำลังเสือโคร่งม้ากระทืบโรง กำลังช้างเผือก โด่ไม่รู้ล้ม กำลังเสือโคร่ง บำรุงกำลัง การกินสมุนไพรใช้กินเป็นอาหาร หรือชาชงผสมน้ำผึ้ง ช่วยให้แข็งแรงชะลอแก่
6. อาหารที่กินแล้วเกิดโรค แก่ง่าย ตายง่าย ควรหลีกเลี่ยงเช่น
อาหารปิ้งย่างจนไหม้เกรียม อาหารรมควัน
อาหารใส่ดินประสิว เช่นไส้กรอก กุนเชียง หมูแฮม แหนม
อาหารเนื้อสัตว์ดิบๆสุกๆ มีพยาธิเชื้อโรค เชื้อรา
อาหารที่ไม่สะอาด หรือบูดเสีย มียาฆ่าแมลง
อาหารเค็มจัด หวานจัด
อาหารที่มีไขมันสูง เครื่องในสัตว์
เหล้าเบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำชากาแฟ
7. พวกผักผลไม้ควรกินสักเท่าไร และมีวิธีกินอย่างไรไม่ให้เบื่อ และให้ได้ประโยชน์เพียงพอหรือไม่
แนะนำให้กินวันละ 5 - 9 ครั้ง คือกินในมื้ออาหาร 3 มื้อ และกินเป็นของหวานแทนขนมเค้ก ขนมหวานๆ กินผักผลไม้เป็นสลัดผลไม้,ส้มตำผลไม้ดื่มน้ำผัก ผลไม้ แทนกาแฟ หรือน้ำอัดลม ควรคั้นหรือปั่นให้มีสีสรร,รสชาติ ชวนดื่ม และไม่ทำให้หวานเกินไป
8. เราควรกินวิตามิน อาหารเสริมเพื่อชะลอแก่หรือไม่
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายสร้างสารที่จำเป็นได้น้อยลง ดูดซึมได้น้อย มีโรคภัยต่างๆ ภาวะความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ร่างกายจึงต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้น วิตามินสำคัญที่ต้านอนุมูลอิสระและชะลอแก่คือวิตามินซี ,วิตามินอี , วิตามินเอ